หลายคนอาจเคยเผชิญกับวันนรกแตก งานที่วางอยู่ตรงหน้าดูยุ่งเหยิง ขณะที่กำหนดส่งงานก็ไล่หลังมาทุกที แต่กลับทำอะไรไม่เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง บางคนใช้เวลาสองสามนาทีเพื่อเปิดงานขึ้นมาทำ แต่สุดท้ายก็ถูกกลืนเวลาด้วย YouTube หรืออาจจะตอบกลับอีเมลฉบับเดียวแล้วหันไปคว้ามือถือขึ้นมาไถ ตั้งใจจะใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ดึงดูดความสนใจจากเราไปได้ เหตุใดเราจึงไม่สามารถโฟกัสอยู่กับงานได้เป็นเวลานานๆ ต่อไปนี้เป็น 4 เหตุผลที่คุณควรรู้เมื่อไม่สามารถโฟกัสกับงานได้

 

เหตุผลข้อที่ 1: คุณเหนื่อยกับงานเกินไป

ลองสังเกตตัวเอง ดูว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้มากน้อยเพียงใด หาวบ่อย ตาพร่ามัว รู้สึกมัวหมอง รู้สึกอยากดื่มกาแฟมากกว่าปกติ หากคุณมีพฤติกรรมดังกล่าว นั่นแสดงว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะเหนื่อยเกินไป ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาเป็นเวลานาน ขาดการพักผ่อนทำให้สมาธิหรือการจดจ่อสิ่งต่างๆ ลดน้อยลง

 

Tips: หากคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะเหนื่อยเกินไป ควรพักเบรกระหว่างทำงาน เมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถจดจ่อหรือทำงานได้อีกต่อไป ควรให้เวลาตัวเองออกไปเดินเล่นข้างนอกและรับแสงแดด มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Advances in Chemical Engineering and Biological Sciences ระบุว่า การได้รับแสงแดดบ้างจะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

 

เหตุผลข้อที่ 2: เสพข่าวด้านลบมากเกินไป

เราไม่ได้แนะนำให้เลิกติดตามข่าวด้านลบที่อาจมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตในแง่ให้ข้อคิดเตือนใจ แต่การรับข่าวสารที่มากเกินจะส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ในบางครั้งเราอาจจะอินกับข่าวถึงขั้นเก็บไปคิด เกิดความวิตกกังวลและขาดสมาธิ

 

Tips: ให้ลองสังเกตอารมณ์และความคิดเวลาที่คุณกำลังอ่านข่าว คุณรู้สึกอย่างไร มีความคิดเห็นอย่างไรต่อข่าว หากข่าวส่งผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึก ทำให้ขาดสมาธิและการจดจ่อ และคุณเองก็ไม่อยากหยุดติดตามข่าว สิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้คือ การจดบันทึกอารมณ์ความรู้สึก เพื่อขจัดสิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจ

 

เหตุผลข้อที่ 3: คุณทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

คุณอาจจะเคยได้ยินว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันนั้นทำลายประสิทธิภาพในการทำงาน แต่อาจจะไม่แย่เสมอไปสำหรับคนที่มี Multitasking skill ถึงอย่างนั้น การทำงานหลายอย่างทำให้สมองต้องการเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนหน้ามากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า นอกจากนี้การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันยังเป็นบ่อเกิดของความเครียด รู้สึกหงุดหงิด เนื่องจากไม่สามารถทำงานให้เสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน อาจมีความรู้สึกพะวงหน้าพะวงหลัง ไม่สามารถจดจ่อกับงานใดงานหนึ่งได้

 

Tips: สิ่งแรกที่ควรทำคือ การจำกัดสิ่งรบกวนขณะทำงาน ได้แก่

- การเปิดโหมดห้ามรบกวนบนมือถือ 
- ปิดการแจ้งเตือนอีเมลและกำหนดเวลาสำหรับเช็คอีเมลโดยเฉพาะ 
- ใส่หูฟังป้องกันเสียงรบกวน กรณีที่นั่งทำงานรวมกันหลายคน และมีเสียงดังเกิดขึ้น 
- จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำและจัดลำดับความสำคัญ
- แบ่งเวลาพักเบรกระหว่างวัน

 

เหตุผลข้อที่ 4: ได้รับมอบหมายให้ทำงานที่ไม่ชอบ

เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำงานที่ไม่ชอบ เรามักจะไม่มีความกระตือรือร้นและตื่นเต้น และมีแนวโน้มที่จะทำงานออกมาไม่ดี ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจในการทำงาน จึงเลือกที่จะไม่จดจ่อกับงานเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่ดี

 

Tips: บนโลกนี้มีสิ่งที่คุณควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ การเครียดกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ไร้ประโยชน์เมื่อคุณให้ความสำคัญกับมันเกินไป สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดคือ การจัดการกับสิ่งที่สามารถควบคุมได้ งานที่ได้รับมอบหมายเปรียบเสมือนสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบ การที่คุณไม่ชอบมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาป แต่เมื่อรับมาทำแล้วก็ควรทำให้ดีที่สุด หรือถ้าสุดจะทนจริงๆ ก็ให้เข้าไปปรึกษากับหัวหน้า ร่วมกันคิดว่าพวกคุณจะจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง 

 

การไม่สามารถโฟกัสกับงาน นั่นส่งผลกระทบกับประสิทธิภาพในการทำงาน เมื่อคุณรู้สึกว่าไม่สามารถจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ ก็ควรหยุดพักตั้งสติก่อน อาจจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ออกไปเดินรับแสงแดด แล้วพิจารณาว่าปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกจนทำให้ขาดการจดจ่อ และก็จัดการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด

 

อ้างอิง: 4 Common Reasons You Can’t Focus On Your Work (And How To Destroy Each One) (trello.com)