วิธีรับมือกับ เพื่อนร่วมงาน ที่มีนิสัยไม่น่าคบ
1. เพื่อนร่วมงาน สายขี้เมาท์
เพื่อนร่วมงานสายนี้จะชอบเมาท์แต่เรื่องของคนอื่น คุยกันได้หลายเรื่อง ยกเว้นเรื่องงาน เรามักพบเพื่อนสายขี้เมาท์สุมหัวกันอยู่ในห้องกินข้าว ห้องพัก และตู้กดน้ำ เพื่อนกลุ่มนี้มักคุยเรื่องที่ทำให้คนอื่นเสียหายเป็นชีวิตจิตใจ สงสัยกันไหมคะว่าทำไมคนถึงชอบนินทากัน? ก็เพราะการนินทาทำให้คนเรารู้จักใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสาร ทำให้เพื่อนกลุ่มนี้รู้สึกเป็นพวกพ้องเดียวกัน ทำให้สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การนินทายังเปรียบเสมียนเป็นกลไก สำหรับเป็นหูเป็นตาตรวจสอบเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลในที่ทำงาน ทั้งนี้ การเมาท์เรื่องของคนอื่นในทางเสียหาย ก็สามารถก่อให้เกิดโทษได้ด้วยเหมือนกัน สำหรับในออฟฟิศแล้ว การที่เราได้ยินเรื่องราวของคนอื่น จะทำให้เราตัดสินคนอื่น อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทำให้เราพลาดที่จะทำความรู้จักกับคนคนนั้น ขณะเดียวกัน ตัวเราเองก็อาจจะตกเป็นหัวข้อนินทาได้ด้วยเช่นกัน
แล้วเราจะรับมือกับเพื่อนร่วมงานที่ชอบนินทาคนอื่นได้อย่างไร?
- ทำตัวเป็นผู้ฟังเพียงอย่างเดียว โดยไม่ร่วมแสดงความคิดเห็น
- อย่าคิดว่าตัวเองจะไม่โดนเมาท์ บางทีเราอาจคิดว่า เมาท์คนอื่นดีกว่าโดนเมาท์เสียเอง จึงปล่อยให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในวงเมาท์ แต่เรามั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะไม่โดนเมาท์เหมือนกัน?
- เอาตัวเองออกจากวงสนทนา หากรู้สึกว่าตัวเองทนรับกับพลังลบไม่ไหว หลายคนอาจไม่กล้าทำเช่นนั้น เพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท และทำให้ไม่สนิทกับเพื่อนร่วมงาน ในความเป็นจริงแล้ว เพื่อนร่วมงาน ก็คือ เพื่อนที่ร่วมมือกันทำงาน มีจุดหมายเดียวกัน แต่ถ้าเพื่อนกลุ่มนี้ได้กลายมาเป็นเพื่อนในชีวิตส่วนตัวเราด้วย ก็นับว่าเป็นโชคดี และสามารถบอกกับเพื่อนได้ตรงๆ ว่าเรากำลังรู้สึกไม่โอเค แต่หากว่าเป็นเพียงเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะเสียมารยาท
- หากโดนนินทาเสียเอง ก็ให้ทำใจยอมรับ เพราะแม้แต่คนที่อยู่ในวงเมาท์เดียวกัน พวกเขายังนินทากันเองเลย ก็ไม่แปลกที่เราจะโดนเมาท์ ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยโดนนินทา
2. เพื่อนร่วมงาน สายหน้าไหว้หลังหลอก หาความจริงใจไม่ได้
เพื่อนร่วมงานสายนี้ มักจะเก่งด้านการแสดง ใครๆ ต่างก็เชื่อไปกับการแสดงที่แนบเนียนของพวกเขา กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็ตอนที่พวกเขาแสดงฤทธิ์เดชออกมาแล้ว แล้วเพื่อนร่วมงานหน้าไหว้หลังหลอก ส่งผลเสียต่อออฟฟิศอย่างไร? สิ่งที่คนเหล่านี้ได้ทำลายลงอย่างเลือดเย็น ก็คือความเชื่อใจของชาวออฟฟิศ ที่ยากต่อการทำดีด้วย กลับต้องผิดหวังเสียใจ หวาดระหว่างว่าตกลงแล้วอะไรจริงเท็จ อย่างไรก็ตาม คนหน้าไหว้หลังหลอกก็จะแสดงตัวตนออกมาสักวัน เพราะความลับไม่มีในโลก
การรับมือกับเพื่อนร่วมงาน สายหน้าไหว้หลังหลอก หาความจริงไม่ได้
- เรียนรู้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบเดิม หากเราโดนกระทำ แล้วรู้สึกผิดหวังเสียใจ ก็ให้คิดเสียว่าเรายังโชคดีที่ได้รู้จักตัวตนของคนแบบนี้เร็วขึ้น หากช้ากว่านี้ก็อาจจะยิ่งทำให้เสียใจมากกว่านี้ เมื่อเราเจ็บแล้วก็ให้เรียนรู้ เก็บประสบการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน เพื่อจะได้รู้เท่าทันเพื่อนร่วมงานประเภทนี้มากขึ้น
- รักษาระยะห่าง โดยไม่ให้เสียงาน โดยการรักษาระยะห่างไว้แต่ไม่ถึงกับตีตัวออกห่าง เพื่อที่เวลาทำงานด้วยกัน จะไม่ได้ไม่เกิดปัญหา แต่เราต้องตระหนักไว้เสมอว่าคนแบบนี้มีนิสัยอย่างไร ไม่ควรกลับไปเชื่อใจอีกครั้ง ก็ถือเสียว่าเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไร
3. เพื่อนร่วมงาน ขี้ประจบประแจง
เพื่อนร่วมงานสายนี้มักจะสนิทสนมกับเจ้านายเป็นพิเศษ บางทีก็ยังไปทำตัวสนิทกับคนที่ให้ผลประโยชน์อีกด้วย นิสัยโดยทั่วไปของเพื่อนร่วมงานประเภทนี้คือ การพูดเอาดีเข้าตัวเอง แล้วโยนความผิดให้คนอื่น ทั้งยังชอบพูดจาเอาใจ เห็นด้วยกับทุกเรื่องของเจ้านาย และยังพยายามทำตัวเป็นที่รักที่เอ็นดูอีกด้วย ผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับองค์ที่มีพนักงานประเภทนี้ คือ องค์กรจะค่อยๆ อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เพราะการเห็นดีเห็นงามกับเจ้านายทุกเรื่อง ทำให้องค์กรพลาดโอกาสที่จะพัฒนางานให้ดีขึ้น และขาดการตรวจสอบภายในองค์กร
หากพบเพื่อนร่วมงานขี้ประจบประแจงในองค์กร จะรับมืออย่างไร?
- หลีกเลี่ยงการเป็นศัตรู อย่าลืมว่าเพื่อนร่วมงานกลุ่มนี้มักมีความใกล้ชิดกับเจ้านาย เขาจะพูดอะไรออกมาก็ได้ เราจึงควรเลี่ยงการเป็นศัตรูกับคนแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปเป็นมิตรด้วย หลีกให้ห่างถ้าทำได้จะดีกว่า
- ปล่อยวาง พยายามโฟกัสที่งานของเราดีกว่า เห็นใครประจบก็อย่าไปประจบตามเขา กลับมาเอาดีด้านการสร้างผลงานให้องค์กรเท่ห์กว่าเป็นไหนๆ ประจบเก่งจนได้ดีไม่น่าจะมีใครชื่นชอบเรานัก แม้แต่เรายังไม่ชอบคนแบบนี้เลย
4. เพื่อนร่วมงาน เน้นใช้ปากทำงาน
หากจะมีใครที่ชอบขโมยความดีความชอบในออฟฟิศแล้วล่ะก็ หนีไม่พ้นเพื่อนร่วมงาน ที่เน้นใช้ปากทำงาน เวลาที่เพื่อนทำงานมักจะไม่เข้าไปร่วมมือด้วย แต่เมื่อมีการนำเสนองาน ก็มักจะเป็นคนแรกที่เสนอตัวขึ้นไปนำเสนอ ราวกับว่าตัวเองอยู่ช่วยทำงานในทุกขั้นตอน แถมยังไม่ให้เครดิตคนทำตัวจริงเสียด้วย จะบอกว่าคนเหล่านี้สารพัดพิษก็ไม่เกินจริงนัก เพราะนอกจากจะขโมยความชอบเก่ง เอาหน้าเก่ง แล้วยังโยนความผิดเก่งอีกด้วย
รับมืออย่างไร หากเจอเพื่อนร่วมงาน เน้นใช้ปากทำงาน
- เริ่มที่ตัวเรา ขยายสู่การสร้างวัฒนธรรมให้เครดิตคนในทีม หากเรามักถูกเลือกให้ไปนำเสนองานบ่อยๆ เราก็ควรให้เครดิตเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วย เพราะกว่างานจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจของทุกคน เมื่อเราปลูกฝังวัฒนธรรมนี้ ก็จะทำให้คนที่เก่งแต่ปากไม่มีที่ยืนไปเอง
- เจ้านายควรตระหนักรู้ว่าอาจมีคนแบบนี้อยู่ในองค์กร เมื่อมีการนำเสนองานของทีม เจ้านายสามารถซักถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อจะได้รู้ว่าใครรู้จริง ทำจริง ไม่เก่งแต่ปาก คนอื่นในทีมจะได้ไม่รู้สึกแย่เวลาไม่ถูกให้เครดิตในการทำงาน
สรุปแล้ว สังคมของคนเราประกอบด้วยมนุษย์ที่มีความหลากหลาย แม้แต่ในออฟฟิศ ก็มีเพื่อนร่วมงานหลายประเภทรวมกันอยู่ คนแต่ละประเภทสามารถให้บทเรียนและทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้ โดยการเรียนรู้ ปรับปรุง และระมัดระวังตัว ตัวเราเองก็จะได้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่น่ารักด้วยเช่นกัน
อ้างอิง: thestandard.co
---พิเศษ!!! สำหรับผู้ที่กำลังมองหางานใหม่ หางาน ขอนแก่น และหางานทั่วประเทศ หรือบริษัทที่มองหาพนักงาน วันนี้ bestjoth.com พร้อมแล้วที่จะช่วยทุกคนตามหาสิ่งที่ใช่ ไม่ว่าจะหางาน สมัครงาน รับสมัครงาน เพียงไปที่เว็บไซต์ของเราและลงทะเบียน!---