2021-11-30 14:34:32 Am

ภาวะหมดไฟในช่วง Work From Home

ในปีที่ผ่านมาหลายคนอาจได้ทำงานจากที่บ้าน และในช่วงนี้เองที่ทุกคนจะได้ลิ้มรสกับความยืดหยุ่นของชีวิตการทำงาน แต่ถึงแม้คุณจะได้อยู่บ้านในระยะยาวและจัดสรรการทำงานต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น สิ่งหนึ่งที่ควรจะตระหนักถึงเสมอคือ ภาวะหมดไฟในช่วง Work From Home เพราะไม่ใช่ว่าทำงานจากที่บ้านแล้วจะไม่เกิดภาวะนี้ขึ้น

 

สาเหตุของภาวะหมดไฟในช่วง Work Form Home

 

การขาดการสื่อสารและขาดการพบเจอกับสังคมภายนอกเป็นสาเหตุสำคัญที่มีผลต่อภาวะหมดไฟ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกดังนี้

 

1) ความรู้สึกว่างานมีความมั่นคงลดน้อยลง
2) ปัญหาด้านเศรษฐกิจ
3) ความกลัวอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่

 

หากมองในด้านดี การทำงานจากที่บ้านก็มีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย และหลายคนก็อาจจะไม่เคยรู้ถึงผลกระทบเหล่านี้มาก่อน 

 

- พนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน ร้อยละ 69.0 กำลังประสบกับปัญหาภาวะหมดไฟ ซึ่งส่งผลต่อแรงจูงใจและประสิทธิภาพการทำงาน
- การทำงานระยะไกลทำให้พนักงานใช้ชีวิตในสังคมภายนอกลดลง ซึ่งนำไปสู่ความเหงาและกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟ และภาวะหมดไฟที่เกิดจากความเหงามักส่งผลต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ของพนักงาน
- การทำงานจากที่บ้านทำให้พนักงานมีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานจึงมักจะทำงานมากขึ้นถึงวันละ 3 ชั่วโมง
- การทำงานจากที่บ้านส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวและการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง โดยพบว่าผู้หญิงมากกว่า 9.8 ล้านคนมีปัญหาภาวะหมดไฟ เพราะต้องพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างครอบครัวและชีวิตการทำงาน

 

5 สัญญาที่บ่งบอกว่าคุณกำลังหมดไฟในช่วง Work From Home

 

หากคุณไม่ได้ทำงานในออฟฟิศมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็มีโอกาสที่คุณจะอยู่ในภาวะหมดไฟ แต่อาการหมดไฟก็ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ภาวะหมดไฟมักจะค่อยๆ เกิดขึ้นจากบางอย่างในช่วงเวลาที่สำคัญ และต่อไปนี้คือสัญญาณบางอย่างที่คุณต้องระวัง

 

1)  ปัญหาการเริ่มต้น

สำหรับคนส่วนใหญ่ ตอนเช้ามักเป็นเวลาที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทุกคนจึงต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์ ด้วยเหตุนี้ครึ่งแรกของวันจึงช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่เหลือ ดังนั้น หากคุณมาถึงจุดที่มีปัญหาในการเริ่มต้นวันใหม่ ก็อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาวิธีสร้างแรงผลักดันใหม่ๆ

 

Tips

 

- สร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้มีแรงจูงใจอยู่ตลอดเวลา คุณต้องฝึกการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เช่น เปลี่ยนที่นั่ง เปลี่ยนสถานที่ทำงาน เปลี่ยนอุปกรณ์ หรือทำในสิ่งที่จะช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้คุณสร้างบรรยากาศที่แตกต่างให้กับการทำงาน ลดความจำเจของชีวิต
- เริ่มต้นวันด้วยการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยให้หลีกหนีจากความเหนื่อยหน่าย ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเติมเต็มเซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น

 

2) ปัญหาการสื่อสาร

ปัญหาหลักของการทำงานระยะไกลที่นำไปสู่ภาวะหมดไฟคือ ปัญหาในการสื่อสารกับทีม การทำงานจากที่บ้านนั้นยากเพราะบางครั้งอาจมีช่องว่างในการสื่อสาร ขาดความชัดเจนในการมอบหมายงาน ทำให้มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือสื่อสารผิดพลาด 

 

3) คำติชมของลูกค้า

ความท้าทายอีกอย่างที่เรามักพบคือ ความลำบากในการจัดทำเอกสารและดำเนินการตามความคิดเห็นของลูกค้า คำติชมจากลูกค้าเป็นบันไดไปสู่ความก้าวหน้าของงาน นอกจากนี้คำติชมยังช่วยให้ทีมมีทิศทางในการทำงาน มีข้อมูลเชิงลึกที่จะใช้ในการปรับปรุงงาน นำไปสู่การวิเคราะห์ภาพรวมของลูกค้าว่ารู้สึกอย่างไรกับสินค้าหรือบริการ

 

4) ความน่าเบื่อของงาน

สัญญาณอีกข้อที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเข้าสู่สภาวะหมดไฟคือ งานดูซ้ำซากจำเจขึ้นทุกนาที สภาพแวดล้อมแบบเดิมๆ โต๊ะทำงานแบบเดิมๆ มุมมองแบบเดิมๆ ทำให้คุณรู้สึกเบื่อ ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้คือพยายามไม่ให้สิ่งใดเข้าสู่ขั้นที่ซ้ำซากจำเจตั้งแต่แรก

 

Tips

 

- เพิ่มเวลาพักเบรกในแผนการทำงานในแต่ละวัน 
- ลุกขึ้นขยับตัวบ้าง อย่านั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา 
- ทำลายความซ้ำซากจำเจด้วยการเรียนออนไลน์เพื่อเพิ่มทักษะที่จำเป็นสำหรับคุณ 

 

5) วัฒนธรรมของทีมกลายเป็นเฉยเมย

ก่อนการระบาดใหญ่ พนักงานทุกคนที่ทำงานในออฟฟิศมีโอกาสได้พบหน้ากัน ทำงานร่วมกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน แต่หลังการระบาดใหญ่ ทุกคนต่างทำงานจากที่บ้าน ทำให้ขาดการติดต่อ และเกิดความห่างเหินตามมาในที่สุด

 

Tips

 

- การกำหนดเป้าหมายระยะสั้น เป็นรายสัปดาห์หรือรายวันจะช่วยให้ทีมของคุณมีสมาธิมากขึ้น มีส่วนร่วมมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป้าหมายระยะสั้นจะช่วยให้ทีมปรับตัวในทิศทางที่มุ่งเน้นเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คนในทีมสนใจงานในมือมากขึ้น
- สื่อสารอย่างสม่ำเสมอ การสื่อสารเกี่ยวกับงาน การพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและการพัฒนาภายในโครงการเป็นหนึ่งในแรงผลักดันหลัก และบ่งบอกว่าทุกคนทุ่มเทกับงาน 100%
- การทำงานด้วยความโปร่งใส ความโปร่งใสคือสิ่งที่ขับเคลื่อนความรับผิดชอบและความภักดีภายในทีม ซึ่งจะทำให้ทีมเข้าใกล้การบรรลุเป้าหมายร่วมกันมากขึ้น ดังนั้น ฝึกฝนความโปร่งใสโดยร่วมมือกับทีมผ่านแพลตฟอร์มการจัดการโครงการที่ช่วยให้คุณติดตามกิจกรรมและดูความคืบหน้าของงาน

 

ช่วงเวลาการทำงานจากที่บ้านอาจทำให้คุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะมีความยืดหยุ่นสูงและคุณสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ให้สอดคล้องกับชีวิตได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกันช่องว่างบางอย่างก็อาจทำให้คุณหมดไฟได้ด้วยเช่นกัน การตระหนักถึงปัญหาและหาทางแก้ไขร่วมกับทีมจะช่วยให้ทีมและคุณก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้

 

 

 

 

 

---พิเศษ!!! สำหรับผู้ที่กำลังมองหางานใหม่ หรือบริษัทที่มองหาพนักงาน วันนี้ bestjoth.com พร้อมแล้วที่จะช่วยทุกคนตามหาสิ่งที่ใช่ ไม่ว่าจะหางาน สมัครงาน รับสมัครงาน งานในประเทศ งานต่างประเทศ เพียงไปที่เว็บไซต์ของเราและลงทะเบียน!---


อ้างอิง: Work From Home Burnout 5 Common Signs & 5 Ways To Fight It (proofhub.com)